บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2011

รอยไหม * พงศกร

รูปภาพ
ตั้งแต่ผมบ้าอ่านนิยายมานมนานหลายปี ... มีนิยายไม่กี่เรื่องหรอกครับที่อ่านไปแล้วเกิดอาการอินจัดถึงขนาดอยากจะไป ยังเที่ยวชมสถานที่ที่เป็นต้นเรื่องราวทั้งหมดอย่างใจจดใจจ่อ ข่มอกข่มใจ ลดกิเลสอยู่ตั้งนานสองนานก็ไม่ลดละซะทีเพราะไปได้อ่านรอยไหม ของหมอพงศกรจบลงแบบหมาดๆ ... * ในใจเฝ้าแต่ร่ำร้องภายในว่า อยากไปหลวงพระบาง อยากไปเมืองมรดกโลก ณ ประเทศลาว * รอยไหม เป็นนิยายที่ลงเป็นตอน ๆ ในพลอยแกมเพชรในห้วงปี 2548 – 2550 แล้วมารวมเล่มเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ความที่ติดตามอ่านจากนิตยสารแบบกระปิดกระปอย ทำให้ผมถวิลหาอยากอ่านฉบับรวมเล่มของรอยไหมเป็นอย่างมาก แทบจะติดตามทุกสื่อว่าจัดพิมพ์ออกมาหรือยัง ...จนกระทั่งได้ซื้อเก็บไว้ครอบครองสมใจกิเลสตัวเองที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ(ซี เอ็ตยังไม่มีขาย) รอยไหมของหมอโอ๊ตเป็นนิยายที่พูดถึงชีวิตที่เกี่ยวพันกันกับภพชาติอดีตและ ปัจจุบันของเจ้าหญิงล้านนาผู้อาภัพ (เจ้านางมะณีริน) กับเจ้าหลวงเมืองลาวผู้สองศักดิ์สองพระองค์ (เจ้าศรีวัฒนา และเจ้าศิริวงศ์) ย้อนโยงมาในภพปัจจุบันที่เข้มข้นต่อเนื่องกันมาเป็นลูกโซ่ในความรักของเรริณ กับสุริยวงศ์ ซึ่งจะสมหวัง...

จอมนาง * แก้วเก้า

รูปภาพ
หากนักเขียนสามารถสื่อสารในสิ่งที่ตนเองต้องการบอกเล่าเรื่องราวผ่านรูปแบบที่เรียกว่านวนิยาย(Fiction) ไป ยังผู้รับสารก็คือคนอ่านได้อย่างที่ตั้งใจไว้แต่บทแรกจนถึงบทสุดท้าย ก็ถือได้ว่านวนิยายเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากที่สุดแล้วก็ว่าได้ด้วยเช่น กัน... การอ่าน “จอมนางของ แก้วเก้า ” ในครั้งนี้เป็นครั้งที่สองจากที่เคยอ่านตอนเด็กหน่อยๆ ... พอได้อ่านนวนิยายที่ค่อนข้างยาวมากกว่า 70 ตอนเรื่องนี้อีกครั้ง สิ่งที่ได้รับก็ยังคงเหมือนเดิมก็คือ อ่านสนุก ได้สาระความรู้ กลวิธีการทางการทหารการเมืองการปกครอง ตลอดจนทัศนียภาพสวยงามของเมืองในฝันอย่างเมืองหงสา ... จอมนางเป็น นวนิยายการเมืองที่เข้มข้นเต็มไปด้วยเหตุการณ์ตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง นางเอกคือสโรบล(เจ้าหญิงเวสาตรี) และพระเอกคือ เจ้าชายภาณุมลฑล ทั้งสองรักกันโดยที่ไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงกันเลย จนสุดท้าย ท้ายสุดก็ต้องมาร่วมมือกันกอบกู้ชาติบ้านเมืองโดยมีความรัก ความตาย การสูญเสียของคนรอบตัวเป็นเดิมพัน ... นวนิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งใน นิยายในดวงใจของหนอนรุ่นพี่เจ้าเก่าที่มาการันตีว่าเรื่องนี้ดียอดเยี่ยม ทั้งเล่ม ผมอ่านไปๆ เรื่อยๆ ก็เ...

ธนูสายฟ้า * มาลา คำจันทร์

รูปภาพ
จันทร์จรเรืองเรื่อฟ้า หมดใส เมิงมางงามขาวไหล เหลื่อบเลื่อม ออนชอนเหน็ดเหนื่อยใจ เมาะม่อย ไปเฮย เรียมงีบหลับมิดเนื้อ บ่มีที่เอื้อแฝงเทียม ออนชอนดึกไคว่ กลางคืน กฌเท่านอนเหนือผืน แผ่นผ้า หนาวเย็นชะลาบตัวสึง ขบปวด นักเฮย บ่มีที่อิงเมอะไว้ ลุกนั่งไห้จุกคิง .. เสียงห้าวทุ้มดังขึ้นไม่ใช่เพลง เป็นลำนำขับขาน เนื้อถ้อยร้อยความเป็นคำบอกรักของหนุ่มถึงสาว ซุ่มเสียงของเขาน่าฟังทีเดียว .. ล่องลมพลิกตัวเอาหัวหนุนตักพี่ชายสุดที่รัก ดึงผ้ามาที่คอ ที่จริงไม่ง่วงเพียงแต่อยากนอนเล่นเท่านั้นเอง แต่ลำนำไทป่าจบลง ก็หลับลงไปอีกครั้ง .. นี่เป็นอีกตอนหนึ่งที่ผมอ่านธนูสายฟ้าของ พ่อครูมาลา คำจันทร์อย่างซาบซึ้ง ตรึงใจ ไม่รู้ลืมไปอีกนานเท่านานสมกับที่รอคอยให้นวนิยายเรื่องนี้ปรากฏโฉมบนแผง หนังสือมานานเกือบปีที่จบลงจากการลงเป็นตอนๆในนิตยสารขวัญเรือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๘ จนถึงธันวาคม ๒๕๕๑ ก่อนจะได้รับการตีพิมพ์เป็นเล่มเดือนมิถุนายน ๒๕๕๒ จนท้ายสุดได้ออกวางจำหน่ายเมื่องานมหกรรมหนังสือแห่งชาติจบ คือเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒ สรุปแล้วก็คือ.. ธนูสายฟ้าของพ่อครูมาลา คำจันทร์กว่าจะ...

กุหลาบแสนสวย * ก.ศยามานนท์

รูปภาพ
IIn’uapas de rose Sansepines “ ไม่มีกุหลาบใดปราศจากหนาม ” เป็นคำกล่าวอ้างจากภาษาฝรั่งเศสคำนี้ไม่ได้เกินจริงเลย กุหลาบแสนสวยต้องคู่กับหนามที่แหลมคม .... อาทิตย์นี้การงานทับถมมากมาย กว่าจะว่างได้ก็เข้าวันอาทิตย์ก้เลยมีโอกาสอัพบล็อก วันนี้ผมจะขอแนะนำนวนิยายบรรยากาศไทยๆแบบที่เราคุ้นเคยกันดี เป็นนิยายเก่าที่น่าเก็บหามาสะสมอย่างเช่นเรื่อง กุหลาบแสนสวย ของ ก.ศยามานนท์เรื่องนี้ ... กุหลาบแสนสวย เป็นนิยายรักโรแมนติกชวนฝัน กระจุ๋มกระจิ๋ม พ่อแม่แม่งอน อ่านสนุกให้คติชีวิตสอนใจมากมาย .... นิยายได้พูดถึงชีวิตของรสริน อภินัย กุหลาบแสนสวยที่ได้รับฉายาว่า Julie Rose นางเอกเป็นหญิงสาวสวย อ่อนหวานเรียบร้อย มีความรู้ความสามารถ รู้จักวางตัวอย่างเหมาะสมในขณะเข้าสังคม มีคุณสมบัติของความเป็นผู้หญิงงามครบถ้วน .... รสรินได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์รังสิมันตร์ ของเสกสม รังสิมันตร์(พระเอก)อาจารย์หนุ่มขวัญใจสาวๆทั่วทั้งเมือง ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว การศึกษาสูง ชาติตระกูลมั่งคั่งมั่นคง เพียบพร้อมสมกับเป็นผู้นำอย่างแท้จริง .... ทั้ง รสริน กับ อาจารย์เสกสม ต่างก็ปิดกั้นหัว...

เหมือนจะรู้อยู่ในเล่ห์เสน่หา * ชูวงศ์ ฉายะจินดา

รูปภาพ
เหมือนจะรู้อยู่ในเล่ห์เสน่หา * ชูวงศ์ ฉายะจินดา “ เหมือนจะรู้อยู่ในเล่ห์เสน่หา .. แต่หากว่าพูดยากเป็นปากหอย เปรียบเหมือนคนจนทุนทั้งบุญน้อย .. จะกล่าวถ้อยออกไม่ได้ดังใจนึก ..” .. นวนิยายเรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องรองสุดท้ายก่อนจะวางปากกาเขียนแบบถาวร (ไม่เขียนอีกแล้ว) ของคุณป้าชูวงศ์ ฉายะจินดา เป็นเรื่องที่ ๙๓ จาก ๘๔ เรื่องสุดท้ายก็คือ “ หนึ่งรักนิรันดร “ เรื่องนี้เป็นนวนิยายขนาดสั้น ๑๐ กว่าตอนจบว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนสมองของคนตายกับคนเป็น เดินเรื่องด้วยความรักสองรูปแบบคือ ความรักแบบหนุ่มสาว สามีภรรยากับความรักของครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกเป็นตัวนำ .. เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนอะไรมากนัก อ่านได้สนุก แป๊บเดียวก็จบ ไหลรื่นได้ดีตามฝีมือของนักเขียนชั้นครูที่เขียนงานมาจนอายุได้ ๘๐ ปีแล้ว (๖ ทศวรรษ) ป้าชูวงศ์ได้กำหนดโจทย์ให้ตัวละครตัวเอกที่สลับร่างจากวิทยาการทางการแพทย์ เริ่มแรกเมื่อนางเอกระแวงว่าสามีจะมีคนใหม่ จึงลงมือคิดฆ่าตัวตายด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แล้วก็ตายจริงๆเสียด้วย แต่เหมือนฟ้าลิขิตไม่ให้ตายเมื่อมีกลุ่มแพทย์กลุ่มหนึ่งผ่าเอาสมองของเธอไป ใส่หญิงสาวอีกคนที่ป่วยเป็นโรคสมองพิการ ใกล...