เป็นที่หวังดังดวงดาว * ก.ศยามานนท์
เป็นที่หวังดังดวงดาว เป็นผลงานหนึ่งในอีกหลายเรื่องของ ก.ศยามานนท์ เจ้าของบทประพันธ์อันเลื่องชื่ออย่างเรื่อง จ้อนกับแดง / กำไลประดับเพชร / ไข่มุกสีชมพู /ดวงใจในม่านเมฆ /ทรามวัยในวสันต์ และอีกหลายเรื่องที่ผมจำไม่ได้แล้ว อิอิ .. นิยายเรื่อง .. เป็นที่หวังดังดวงดาว เรื่องนี้เป็นเรื่องราวชีวิตอันแสนจะผกผันของสามพี่น้อง นั่นก็คือ ธาริษา ไมตรี สาวน้อยอายุสิบแปดปีผู้งดงามอย่างอ่อนโยน ละเมียดละไม หล่อนมีดวงหน้าอันได้สัดส่วนอย่างน่าชม ที่สวยที่สุดก็คงเป็นนัยน์ตาอันกว้างใหญ่มีขนตาหนาทึบและคิ้วอันดกดำ จมูกและปากของหล่อนได้รูป มียิ้มอย่างหวานชื่นจากริมฝีปากที่อิ่มเต็มนั้น หล่อนมีความงามโดยมิต้องอาศัยเครื่องตบแต่งใดๆเลย .. ส่วนผู้เป็นน้องคนกลาง ก็คือ ธาริน ไมตรี จัดเป็นเด็กสาวผู้น่ารักน่าเอ็นดูโดยแท้ หล่อนไม่มีลักษณะความงามอันอ่อนโยน หากคมขำอย่างเอกอุ ความเฉลียวฉลาดส่อสำแดงควบคู่มากับอัจฉริยภาพ จมูกที่รั้นน้อยๆ บอกความไว้วางตัว และปากที่ได้รูปนั้นคงจะเต็มไปด้วยถ้อยคำอันแหลมคม .. สาวน้อยธารินมีอายุเข้าสิบเจ็ดปีเท่านั้นเอง ...
ทั้งธาริษาและธาริน ไมตรี คือตัวละครเอกของเรื่องที่นำพาเรื่องราวนิยายเป็นที่หวังดังดวงดาว ให้เคลื่อนเลื่อนไหลไปตามเหตุการณ์ที่สนุก เข้มข้น พลิกผันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง .. เริ่มต้นที่กระติกกับกระเตง สองนางเอกของเราได้มาพักอาศัยอยู่บ้านย่าแท้ๆของตัวเองอย่างอัดคัตขัดสน เพราะต้องไปอยู่เรือนหลังเล็กแทนที่จะอยู่ตึกใหญ่โตโอ่โถงสมชาติวงศ์พงศา โดยมีสองแม่ลูกมหาภัยอย่างนางลำยองกับลักษมี คอยยุแหย่ผู้เป็นย่าอยู่ตลอดเวลาด้วยเรื่องราวต่างๆ .. เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อพระเอกโผล่มาพร้อมตัวร้ายฝ่ายชาย .. พระเอกของเราคือ วสิต วราธิวัตรกับหม่อมราชวงศ์ภาดา คำแดง สองหนุ่มสหายรักเสมือนญาติสนิทกับ ม.ร.ว.นภดล คำแดง .. ผู้เป็นพี่ของภาดานั่นเอง ..
ความสนุกสนานเพลิดเพลินพลิกผันโศกเศร้า เคล้าน้ำตาเริ่มต้นที่ชายทะเลสามมุข ไล่เรียงต่อเนื่องมาถึงพระนครในความยาวของนวนิยายเล่มโต ๔๒ ตอนจบ ๗๗๘ หน้า ตอนจบของเรื่องมีหักมุมด้วย .. ผมอ่านจบแล้วในสองคืนเกือบตีสอง วางไม่ลงเลย .. อยากจะเล่าเรื่องย่อทั้งเรื่องให้เพื่อนๆฟัง แต่ก็เล่าได้ไม่เต็มที่เพราะกลัวจะข้ามตอนสนุกไป เอาเป็นว่าสรุปตอนจบเรื่องนี้ก็คือแฮปปี้เอนดิ้ง สมรักทั้งสองคู่ ... แต่ที่น่าติดตามคือระหว่างเส้นทางความรักของทั้งสองคู่ มันน่าติดตาม น่าใจหายใจคว่ำไปเสียเหลือเกิน ...
นัยยะความหมายของชื่อเรื่องตาม ความคิดของผม ... เป็นที่หวังดังดวงดาว ก็คงจะหมายถึง .. สิ่งที่นางเอกของเรื่องคือ กระเตง ฝันอยากจะเป็นนักประพันธ์เอกได้เพียรพยายามไต่หาฝันจนสำเร็จ พร้อมกับความดีงามของตนเองจนชนะอุปสรรคทุกสิ่งอย่าง นั่นรวมถึงความรักแท้ด้วย .. ธาริษาก็เช่นเดียวกัน เธอพิสูจน์หัวใจบริสุทธิ์ของรักแท้ตามพรหมลิขิต เฝ้ารอคอยผลลัพท์ของมันอย่างใจเย็น จนวันหนึ่งทุกอย่างก็เป็นที่หวังดังดวงดาว ..
“ รัศมีแห่งความดีงามของธาริษา ย่อมจะฉายเด่นให้ “ ใครคนหนึ่ง ” ได้ประจักษ์แจ้งใจ ..”
ถ้า เพื่อนหนอนได้ประสบพบเจอนวนิยายรักเข้มข้นสนุกเรื่องนี้ก็อย่ารีรอที่จะหยิบ ขึ้นมาอ่านกันนะครับผม .. รับรองว่าเรื่องนี้เอาไปเลยห้าดาวเต็มสำหรับความสนุกสนาน สี่ดาวสำหรับสำนวนภาษาอันวิจิตรอลังการ .. แต่ผมก็อดจะแปลกใจไปไม่ได้ว่าคนรุ่นเก่าสมัยคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย (พ.ศ. ๒๕๐๔) ได้มีนวนิยายไทยที่อ่านสนุกมากๆๆๆ อย่างนี้ด้วยอยู่หลายเรื่อง (อย่างงานของคุณน้อย ชลานุเคราะห์ที่ผมจับมารีวิวอยู่บ่อยๆ) แถมพล็อตเรื่อง โครงเรื่องประมาณนี้ยังยืนยงคงอมตะอยู่บนจอโทรทัศน์บ้านเราในตอนนี้ไม่แตก ต่างจากนวนิยายสมัยก่อนเลย ..
ถ้าหากน้องๆนักเขียนรุ่นใหม่ได้ อ่านบล็อกนี้ก็ลองไปหาอ่านงานเขียนนวนิยายรุ่นเก่าอย่างที่ผมรีวิวมาดู ก็จะทราบว่าภาษาไทยของเรานั้นวิจิตรบรรจง สวยงามเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ยากจะหาชาติใดเสมอเหมือนได้อีกแล้ว .. ที่สำคัญนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยก่อน ต้องฝ่าด่านอรหันต์ของนักภาษาไทยกับคนอ่านมากมายแค่ไหน ถึงจะได้รับการพิมพ์นวนิยายไทยให้เราได้อ่านอย่างซาบซึ้งและเข้าถึงความคิด ตัวละครอย่างชนิดที่ประทับใจกับไม่รู้ลืมเลือนเลยทีเดียวเชียวครับ ..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น